@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 21/5 วันที่ 7 มิ.ย. 57

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 21/5 วันที่ 7 มิ.ย. 57

"ก็ยังไม่ว่าไง? บอกแต่ว่าคนร้ายไม่ธรรมดา เก็บกล้องวงจรปิดซะเรียบ หลักฐานนิ้วมือก็ไม่มี"
"นิ้วมือไม่มี? แล้วนิ้วเท้าล่ะ?”
โก้เกาหัวด้วยความรำคาญ "ก็ไม่มี้!!”
แพรวพรรณรายตกใจ "คนร้ายขาด้วนเหรอ? รึว่าผี? ผีลอยมา?”

โก้รำคาญหนัก "ไม่ใช่!! มีแต่รอยรองเท้า รองเท้าบูท น่าจะเป็นผู้ชาย มาคนเดียว"
แพรวพรรณรายคิด "จะมาทำไม? จะมาเอาอะไร?" แพรวพรรณรายมองโก้ "มีเกย์ที่ไหนแอบชอบแกป่าว..ไอ้โก้?”
"บ้า!!! ชอบแกสิ..ไอ้พิ้งค์"


แพรวพรรณรายมองสภาพห้องอีกที "รื้อแฟ้มซะกระจุย" แพรวพรรณรายฉุกคิด "แฟ้ม?? แฟ้มเอกสารพวกนั้นเอกสารอะไร?”
"ก็แฟ้มประวัติคนไข้"
แพรวพรรณรายทวน "แฟ้มประวัติคนไข้?" แพรวพรรณรายนึกแล้วก็พึมพำ "มันจะมาค้นแฟ้มประวัติคนไข้ไปทำอะไรของมัน?”

อาหารเช้าเช็ทน่ารักในมือสาวิตรีกำลังถูกนำมาวางลงตรงหน้าวิทย์ ทุกคนฮือฮา
“Breakfast สุดพิเศษสำหรับ ‘ลูกวิทย์’ คะ" สาวิตรีพูด
"โห..ทำไมคุณแม่ลำเอียง? ทำไมพี่วิทย์ได้พิเศษอยู่คนเดียวล่ะคะ" นารถนรินทร์ตัดพ้อ
"นั่นสิ..พ่อก็ไม่ได้" ทวยเทพว่า
"สาเหตุก็คือ..’รมณ์เสียค่ะ!!” สาวิตรีบอก
ทุกคนร้องอ้าวอย่างงงๆ
"อารมณ์เสียแต่เช้า เดี๋ยวหน้าก็เหี่ยวหมดหรอก" ทวยเทพบอก
สาวิตรีสะดุ้งแล้วก็จับหน้า "ว้าย!! พ่ออ่ะ!!”
ใบตองกระซิบ "เหี่ยวไม่เป็นไรค่ะ คลีนิคปากซอยร้อยไหม โบท๊อกซ์ได้เป๊ะเว่อร์"
"บ้า!! ใบตอง!! คลีนิคปากซอย?? สุ่มสี่สุ่มห้าเดี๋ยวได้หน้าเละเป็นโจ๊กสิ!! คนเราควรจะงามตามธรรมชาติ"
"ว่าแต่คุณแม่อารมณ์เสียเรื่องอะไรเหรอคะ?” นารถนรินทร์ถาม
"ก็ดูซิ!! บ้านนี้มีลูกชายตั้ง 3 คน แต่" สาวิตรีมองเก้าอี้ที่ว่างเปล่า "ไม่มีลูกชายมาทานข้าวเช้ากับแม่ซ้ากคน" สาวิตรีมองวิทย์ "มีแต่ลูกวิทย์คนเดียว" สาวิตรียิ้ม "ลูกวิทย์จึงสมควรได้รับ Breakfast สุดพิเศษเพียงคนเดียวเท่านั้น"
นาคินทร์เดินเข้ามา
"อ้าว..แล้วผมล่ะครับคุณแม่?” เสียงนาคินทร์ถามขึ้น
สาวิตรีตาโตด้วยความดีใจ "พี่คิน!!" สาวิตรีแว้ดใบตอง "ไหนว่าพี่คินไปทำงานแล้ว?”
ใบตองคอย่น "ก็นี่มันสายแล้ว นึกว่าไปแล้วอ่ะสิคะ"
วิทย์ทัก "สวัสดีครับพี่คิน"
"เป็นไงวิทย์?” นาคินทร์ทักกลับ
"จริงสิ..ทำไมวันนี้ไปทำงานสายล่ะนาคินทร์" ทวยเทพถาม
นาคินทร์ไม่อยากตอบว่า ‘เมา’ ปานตะวันลอบมองก็แอบเห็นผ้าห่มผืนบางๆ ในมือนาคินทร์
นารถนรินทร์เคืองทันที "ทำไมจะไม่สายล่ะคะ" นารถนรินทร์ค้อน "ไปงานไฮโซกับยัยค็อกแค๊กนั่นซะดึกละสิ"
สาวิตรีงงๆ "ใครเป็นอะไรไม่สบายค็อกแค๊กคะ?”
นาคินทร์ไม่ค่อยพอใจแต่ก็ไม่ได้ดุจริงจัง "นี่!! ยัยนารถ พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าต้องให้เกียรติกนกเค้า"
"กนกที่ไหน ไม่ใช่พี่กนกซะหน่อย"
นาคินทร์อึ้งไปแล้วก็ถอนใจเพราะเขารู้ทั้งรู้ว่าไม่ใช่ แต่เขาก็หลอกตัวเองมาตลอด นาคินทร์ไม่พูดอะไรต่อ เขานึกได้ก็ยื่นผ้าห่มในมือให้สาวิตรี
"เมื่อคืนนี้..ขอบคุณมากนะครับคุณแม่"
ปานตะวันพิรุธ
สาวิตรีงง "เมื่อคืน?" สาวิตรีมองผ้า "อะไรคะลูก?”
"ก็ผ้าห่มของคุณแม่ไงครับ เมื่อคืน..เอามาห่มให้ผมที่โซฟา"
สาวิตรีเสียงสูง "เปล๊าาา..ไม่ใช่แม่"
"อ้าว.." นาคินทร์ยื่นผ้าห่มให้นารถนรินทร์
นารถนรินทร์เหล่มอง "พี่คิน? นารถเนี่ยนะคะ..จะออกมาห่มผ้าให้พี่คินที่โซฟาดึกๆ ดื่นๆ?”
นาคินทร์งงๆ
ใบตองรีบบอก "ไม่ใช่ใบตองค่ะ ชัวร์ค่ะ เพราะใบตองใช้แต่ผ้านวม" ใบตองมองผ้าในมือนาคินทร์ "หวานๆ น่ารักๆ อย่างนี้" ใบตองส่ายหน้า "ไม่ใช่!!มันไม่ใช่!!”
นาคินทร์นิ่งไปเพราะเริ่มงงหนัก
ทุกคนมองหน้ากันแล้วหันไปมองปานตะวัน
ปานตะวันรีบลุก "ตะวันขอไปเตรียมชุดลงน้ำให้น้องนารถก่อนนะคะ" ปานตะวันรีบเดินออกไปทันที
ทุกคนมองหน้ากันเพราะคิดเหมือนกันว่าชัวร์ ก่อนจะหันไปมองนาคินทร์ นาคินทร์มองตามปานตะวันไปแล้วก็หันมาเจอสายตาของทุกคน เขารีบเฉไฉ
"ไม่รู้ของใคร" นาคินทร์วางไว้บนโต๊ะ "ผมฝากคืนเจ้าของด้วยก็แล้วกัน ไปทำงานก่อนนะครับ" นาคินทร์พูดกับวิทย์ "เจอกันวิทย์"
"ครับพี่คิน"
นาคินทร์เดินออกไป ทุกคนมองตามเป็นตาเดียว นารถนรินทร์กรี๊ดกร๊าดด้วยความดีใจ
"อึ๊ย!! ดีใจๆ"
วิทย์ขำๆ "ดีใจอะไรครับน้องนารถ"
"ก็ดีใจที่ลมเริ่มเปลี่ยนทิศ ท่าทางจะลมพัดหวนน่ะสิคะพี่วิทย์ เจ้าประคู้ณ..ขอให้ลมพัดหวนจริงๆ เถ๊อะ"
ใบตองเอียงหน้ามาแฉ "ท่าทางจะหวนจริงๆ ค่ะ..วันก่อนใบตองก็เห็น"
นารถนรินทร์กับสาวิตรีรีบถาม "เห็นอะไร?”
ใบตองทำท่าทางแบบมีเรื่องเด็ดจะเม้าท์ สามสาวรีบสุมหัวกัน ใบตองเริ่มเม้าท์ “วันนั้นที่เราใส่บาตรกันไงคะ คุณคินกะคุณตะวันใส่บาตรปุ๊ป โอ้โห..โป๊ะเช๊ะเลย” สาวๆฮือฮา “จริงอ่ะๆ"
สองหนุ่มส่ายหน้ายิ้มๆ ขณะที่ได้ยินเสียงแว่วใบตองพูดต่อว่า “จริงค่ะ ใบตองเห็นกะตา ฯลฯ”

ปานตะวันจัดเตรียมอุปกรณ์กายภาพอยู่ริมสระ นาคินทร์เดินออกมาจะไปทำงาน แล้วต่างคนก็ต่างชะงัก มองกัน นาคินทร์เป็นฝ่ายเมินก่อนแล้วก็เดินออกไป ปานตะวันแอบน้อยใจก่อนจะถอนหายใจเฮือก แล้วหันมาหยิบจับอุปกรณ์ต่อ ปานตะวันบังเอิญทำของหล่นพื้น เธอจะก้มหยิบแต่ก็มีคนหยิบก่อน หน้าของปานตะวันอยู่ใกล้กันคนๆ นั้น ซึ่งก็คือ ‘นาคินทร์’ ปานตะวันอึ้ง นาคินทร์ยื่นให้ ปานตะวันมีแววตาที่แอบดีใจ
นาคินทร์พูด "ไม่ต้องดีใจไป ที่ช่วยเนี่ย จะได้หายกัน ผมไม่มีอะไรติดค้างคุณ มีแต่คุณที่ติดหนี้ผมและก็ต้องชดใช้"
ปานตะวันอึ้ง นาคินทร์เดินหน้าเฉยๆ ออกไป ปล่อยให้ปานตะวันแทบทรุด

นัครินทร์เซ็นต์เอกสาร 1 แผ่นเสร็จแล้วก็หยุด เขาหันไปจ้องประกายเดือนที่ยืนอยู่ข้างๆ ประกายเดือนส่ายหน้าขำๆ ก่อนจะเปิดแฟ้มให้อีกหน้านึง นัครินทร์เซ็นต์เสร็จก็หันไปมองอีก
ประกายเดือนถาม "มือซ้ายด้วนตั้งแต่เมื่อไหร่"
"อ้าว..จะมีเมียไว้ทำไมล่ะฮะ? ผัวก็เปรียบเสมือนมือขวา เมียก็เปรียบเหมือนกับมือซ้าย เราผัวเมียต้องคู่กันไปจริงมั้ยฮะ?" ประกายเดือนทำท่า "ผัวเซ็นต์ เมียเปิด เมียเปิด ผัวเซ็นต์"
ประกายเดือนดุเสียงเบาๆ "นี่!! อย่าพูดดัง เดี๋ยวใครได้ยิน"
"โอ่ย..กลุ้มใจ!! มีเมียกะเค้าทั้งคนก็บอกใครไม่ได้ ถามจริง..ใจคอจะให้ปิดข่าวไปถึงเมื่อไหร่ฮะ? ความลับไม่มีในโลกนะฮะ"
"แล้วคุณกะฉันอยากหายไปจากโลกนี้มั้ยล่ะ?! ถ้าพี่สาวฉันรู้ล่ะก้อ ตายแน่!!”
"ผมไม่เชื่อ!! เราไมได้ทำอะไรผิด!! ผมจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฏหมายนะฮะ อุ๊ปส์!”
ประกายเดือนรีบปิดปากนัครินทร์ "บอกว่าอย่าเสียงดัง!!”
นัครินทร์พนยักหน้าหงึกๆ ประกายเดือนเอามือออก
"เอกสารหมดแล้ว"
นัครินทร์สบายใจจึงเอนตัวจะพักผ่อน
ประกายเดือนล็อคหัวนัครินทร์ไว้ "เดี๋ยว!! ท่านประธานเรียกพบ เดี๋ยวนี้!!”
นัครินทร์เซ็ง "ว้า! ไรวะ?”

นาคินทร์จับลูกเหล็กเงื้อไว้แล้วก็ชั่งใจ ในที่สุดเขาก็ปล่อยลงจนมันกระทบกันไปมา ทันใดนั้นนัครินทร์ก็เคาะประตูเป็นพิธีแล้วก็พรวดเข้ามาทันทีโดยยังมีอาการเย็นชาใส่กันอยู่ทั้งพี่ น้องในเรื่องที่นาคินทร์ไม่ยอมให้นัครินทร์แต่งงานกับประกายเดือน
นัครินทร์ถาม "มีไรฮะ?”
นาคินทร์พูดเสียงเรียบ "นั่งลง"
"ยืนก็ได้ฮะ คงไม่นาน?”
นาคินทร์มองอย่างไม่สนแล้วก็ยืน "แกยังโกรธฉันอยู่ เรื่องประกายเดือน"
นัครินทร์ทำเฉยๆ เหมือนไม่สน
นาคินทร์พูดต่อ "ฉันไม่ได้ห้ามให้แกยุ่งกับเค้า แกยุ่งกับเค้าได้ แต่ไม่มีวันที่จะมีงานแต่งงาน"
นัครินทร์มองพี่ชายแบบเย้ยๆ "เพราะอะไรฮะ?”
นาคินทร์มองสักพักแล้วพูด "ซักวันนึงแกจะเข้าใจว่าทำไมฉันถึงต้องทำแบบนี้..นายนัค"
นัครินทร์มอง สักพักเขาก็พยักหน้า "ก็..แล้วแต่ฮะ หมดธุระแล้วใช่มั้ยฮะ"
นาคินทร์เซ็งๆ จึงไม่ตอบ
นัครินทร์เดินออกแล้วก็ชะงักหันมา "ผมก็หวังว่า..พี่คินจะเข้าใจผมบ้างเช่นกัน นะฮะ"
นาคินทร์มอง นัครินทร์ฉีกยิ้มให้แล้วก็หุบยิ้มก่อนจะเดินออกไป ปล่อยให้นาคินทร์มองตามด้วยความคิดในใจว่าไอ้นี่แปลกๆ"
มิ้ลค์หันขวับมาอย่างไม่พอใจ
"ฉันไม่เข้าใจ แกพูดอะไรของแกห๊านังเคท?? ฉันไปโทร.ขู่อะไรแก?? เมายารึป่ะเนี่ย?”
กนกรัตน์มีหน้าตาไม่สดใสเพราะว่าเครียดมาก เธอจ้องมิ้ลค์อย่างจับผิดก่อนจะถาม "แน่ใจเหรอ ว่าแกไม่ได้ขู่จะ..." กนกรัตน์ชะงักเพราะไม่อยากพูดเรื่องทุบหน้าของตัวเอง
มิ้ลค์รำคาญ "จะอาราย?! ฉันจะขู่อะไรแก?" มิลค์ขำ "นี่!! คนอย่างคุณมิ้ลค์อ่ะนะ ไม่มีคำว่าขู่ให้เสียเวลา" มิ้ลค์ทำหน้าร้าย "ถ้าจะเล่นน่ะ เล่นเลย!!”
กนกรัตน์มองอย่างชั่งใจแต่ก็ไม่เห็นพิรุธ "ให้มันจริงละกัน"
"ฉันมัน ‘จริง’ อยู่แล้ว" มิ้ลค์จิกกนกรัตน์เยาะๆ "ไม่ ‘ปลอม’ เหมือนใครบางคนหรอก" มิ้ลค์สวมแว่นดำก่อนจะยัก ไหล่แล้วเดินออกไป
กนกรัตน์โกรธ แล้วมองตามแต่ก็ด่าไม่ทัน
มิ้ลค์ชะงักก่อนจะหันมาถอดแว่นดำแล้วบอก "งานศพนังโมน่ะ คิดจะไปมั่งมั้ย? ใจคอไม่คิดจะไปเผา เพื่อนมั่งเลยรึไงห๊า?" มิ้ลค์ใส่แว่นดำแล้วเดินสะดิ้งจากไป
กนกรัตน์มองตามด้วยสายตาเหยียด
"จะไปทำไมให้เมื่อย"
กนกรัตน์เย้ยๆ ก่อนจะมีสายตาที่หนักใจอย่างเก่า
"ไม่ใช่นังมิ้ลค์ แล้วมันใคร?”

นาคินทร์เซ็นต์เอกสารเสร็จก็ปิดแฟ้ม
"ขอบคุณมากครับคุณฉัตร" นาคินทร์บอก
ปาริฉัตรยิ้มก่อนจะเอื้อมไปหยิบแฟ้มแบบตั้งใจก้มให้เข้าไปใกล้นาคินทร์ที่สุดประมาณว่าขอแค่สูดดมก็ชื่นใจแล้ว
นาคินทร์ไม่รู้ตัวอะไร จึงถามเป็นเป็นปกติ "เหนื่อยมั้ยครับ?”
ปาริฉัตร อึ้ง เธอถามราวกับหูฝาด "อะไรนะคะ? เอ่อ..ประทานโทษค่ะ เมื่อกี้ท่านประธานว่าอะไรนะคะ ฉัตรฟังไม่ถนัด"

อ่านละคร เสน่หาสัญญาแค้น ตอนที่ 21/5 วันที่ 7 มิ.ย. 57

ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น บทประพันธ์โดย Shayna
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่หาสัญญาแค้น โดยผู้จัด อรพรรณ (พานทอง)วัชรพล
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 ทางไทยทีวีช่อง 3
ละครเรื่อง เสน่หา สัญญาแค้น...เริ่มออกอากาศตอนแรก 21 พ.ค.57 ต่อจากละครเรื่อง อย่าลืมฉัน
ที่มา ไทยรัฐ